Your browser's Javascript functionality is turned off. Please turn it on so that you can experience the full capabilities of this site.
อวัยวะต่างๆ ครบถ้วนสมบูรณ์โดยเฉพาะระบบประสาทเดือนนี้น้ำหนักตัวลูกเพิ่มมากขึ้น
และตอนนี้ก็เป็นช่วงที่ลูกกำลังจะหมุนศีรษะหันลงสู่อุ้งเชิงกราน
นับไปนับมาอีก2 เดือนก็จะได้พบหน้ากันแล้วล่ะ
ระบบประสาท ระยะนี้ระบบประสาทส่วนกลางของทารกจะพัฒนาไปอย่างมาก สมองมีขนาดใหญ่ขึ้นและมีรอยหยักในสมองที่บ่งถึงความเฉลียว-ฉลาด เซลล์สมองและเส้นประสาทเชื่อมต่อกันและทำงานที่มีความสลับซับซ้อนมากขึ้นเส้นประสาทมีเยื่อหุ้มที่ทำจากไขมัน ทำให้การส่งผ่านสัญญาณในเส้นประสาททำได้รวดเร็วขึ้น ทารกวัยนี้เตรียมตัวลืมตาออกสู่โลกภายนอกแล้ว ดังนั้นหากเกิดเหตุสุดวิสัยที่ทารกคลอดก่อนครบกำหนด ก็จะมีโอกาสรอดอยู่มาก ถึงแม้ว่าปอดยังทำงานได้ไม่ดีนัก และระบบป้องกันการสูญเสียความร้อนออกจากร่างกายยังไม่สมบูรณ์ก็ตาม ผิวหนัง ไขมันใต้ผิวหนังสะสมมากขึ้น ทำให้ผิว-หนังเริ่มเต่งตึง ไม่เหี่ยวย่น และช่วยให้การสูญเสียความร้อนลดน้อยลง ขณะเดียวกันขนอ่อนที่เรียกว่า ลานูโก ก็จะเริ่มหายไปและเหลือไว้เพียงบริเวณหัวไหล่และแผ่นหลังเท่านั้น ตา ตาที่มีเยื่อหุ้มบางๆ ปิดมาตลอดเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับตานั้น ได้ทำหน้าที่ครบถ้วนแล้ว เพราะจากนี้ทารกจะเริ่มลืมตาได้ สามารถมองเห็นและฝึกฝนการเพ่งมองวัตถุที่สนใจ ระบบทางเดินอาหาร ทารกมีการกลืนน้ำคร่ำและฝึกการดูดนมด้วยเช่นกัน สำหรับน้ำคร่ำที่ถูกดูดกลืนเข้าไปจะถูกขับถ่ายออกมาเป็นปัสสาวะประมาณ500 มล.ต่อวัน ปอด ในขณะนี้ปอดมีพัฒนาการไปมาก ถุงลมที่อยู่ในปอดทารกเมื่อมีอากาศเข้าไปก็จะสามารถโป่งอยู่ได้ ไม่ยุบตัวลงมา เนื่องจากมีสารที่ช่วยให้มีความตึงผิวภายในถุงลมซึ่งเรียกว่า Surfactant ขนาดของทารก มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้การเคลื่อนไหวภายในมดลูกไม่เป็นอิสระเหมือนเดือนก่อนๆ ดังนั้นส่วนใหญ่จึงเป็นการพลิกตัวมากกว่าการหมุนตัว และเป็นช่วงที่ทารกในครรภ์จะหมุนศีรษะหันลงสู่อุ้งเชิงกรานเพื่อเตรียมตัวสำหรับการคลอดต่อไปด้วยเมื่อสิ้นสุดเดือนนี้ ทารกจะมีความยาวศีรษะถึงก้นประมาณ 28 ซม.และมีน้ำหนักประมาณ 1,500 กรัม
คุณแม่ตั้งครรภ์ระยะนี้มักจะมีอาการเช่นนี้ เหนื่อยและเพลียง่าย เดือนนี้เป็นการสิ้นสุดไตรมาสที่สองและเริ่มต้นไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ คุณแม่จะมีความรู้สึกเหนื่อยและเพลียง่าย
มีน้ำนมไหล คุณแม่อาจเริ่มสังเกตว่ามีน้ำสีขุ่นๆ ไหลออกมาจากหัวนม น้ำนี้มีความใสกว่าน้ำนมมีรสหวาน เรียกว่า โคลอสตรัม (Colostrum)เพื่อให้ทารกได้กินเป็นอาหารในช่วง 3-4มื้อแรกก่อนที่น้ำนมจริงๆ จากเต้านมจะไหลออกมานั่นเอง ปัสสาวะบ่อยขึ้น คุณแม่จะเริ่มมีอาการปัสสาวะบ่อยขึ้นมาอีก หลังจากหายไปเมื่อเลย 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์แล้ว คราวนี้อาการปัสสาวะบ่อยนั้นเกิดจากมดลูกที่โต และทารกที่อยู่ภายในเริ่มมีแรงกดต่อกระเพาะปัสสาวะทำให้เกิดอาการดังกล่าว นอนแล้วอึดอัด ตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป คุณแม่จะรู้สึกว่าไม่ว่านอนท่าไหนก็ดูจะไม่สบายไปเสียหมดทั้งนี้และทั้งนั้นก็เพราะมดลูกที่โตนั่นเองลองนอนตะแคงและยกเข่าข้างหนึ่งขึ้นมาทางหน้าอก และอีกข้างหนึ่งเหยียดตรง ท่านี้อาจจะเป็นท่าที่สบายที่สุดก็ได้ ปวดหลัง นอกจากอาการนอนที่ไหนก็ไม่เป็นสุขแล้วอาการปวดหลังก็จะยังเป็นปัญหา โดยเฉพาะคุณแม่ที่ไม่สามารถควบคุมน้ำหนักตัวได้ดีและน้ำหนักขึ้นมาก ทำให้กล้ามเนื้อหลังต้องทำงานหนักขึ้น ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนของการตั้งครรภ์ทำให้ข้อยึดต่างๆหลวม ก็ยิ่งทำให้อาการปวดหลังเป็นมากขึ้นการใส่รองเท้าส้นเตี้ย นั่งตัวตรง นอนที่นอนที่แข็งเพียงพอ และไม่ยกของหนัก จะช่วยให้อาการปวดหลังทุเลาลงได้
ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล : นิตยสาร รักลูก และ www.thainannyclub.com เรียบเรียงโดย : www.be-bebe.com